“ประชาธิปไตย” คือ อะไร? การปลูกฝั่ง “อำนาจนิยม” แก่เยาวชนไทยในรูปแบบของหนังสือเรียน

การช่วงชิงความหมายของ “ประชาธิปไตย” จาก “สิทธิ” ของประชาชน สู่ “หน้าที่” เชื่อฟังคำสั่งของ “ผู้มีอำนาจ”: การปลูกฝั่ง “อำนาจนิยม” แก่เยาวชนไทยในรูปแบบของหนังสือเรียน
.
กระทรวงศึกษาฯ จ้องจับตาหนังสือนิทานราษฎร ขู่ฟ่อ ๆ อ้างปลุกปั่นทางการเมือง กรณีที่มีการตีพิมพ์หนังสือนิทานภาพที่มีชื่อว่า “10 ราษฎร” นิทานภาพซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับสถานการณ์ทางการเมืองในช่วงปีที่ผ่านมา https://thethaiger.com/th/news/481160/
.
แล้วหนังสือนิทาน (คนดี) หน้าตาเป็นยังไง ?
.
ลองเปิดดูหนังสือเด็กตามมาตรฐานการศึกษาไทยกัน เพจ @คิดอย่าง ได้แชร์ภาพหนังสือเรียนชื่อว่า “ฉันรักประชาธิปไตย” เขียนโดย “น้านกฮูก” ซึ่งเป็นหนังสือรางวัลสำหรับเด็ก 3-5 ปี ที่สนับสนุนค่านิยม 12 ประการ มรดกของ คสช. https://www.facebook.com/Arch.kidyang/posts/6182619175112907
.
เพื่อเข้าใจ “ประชาธิปไตยที่ถูกต้อง” หนังสือเล่มนี้ได้อธิบายว่า “…ประชาธิปไตย คือ การรู้จักหน้าที่ของการเป็นพลเมืองที่ดี เช่น ข้ามทางม้าลาย เข้าแถว ทิ้งขยะลงถัง และการรู้จักหน้าที่ของตนเอง เช่น เก็บของเล่น จัดบ้าน รดน้ำต้นไม้”
.
อ่านเพลิน ๆ ก็จะรู้สึกว่า “ก็ดีนะ” “ก็ปกตินิ” ใคร ๆ ก็ต้องรู้จักหน้าที่ของตนเอง
.
คำตอบ คือ ใช่ การรู้จักและปฏิบัติตามหน้าที่ของตนเอง เป็นสิ่งที่ต้องอบรมสั่งสอนเด็ก ๆ และเยาวชน คงไม่มีใครเข้าไปโต้แย้งหรอกว่า ทุกคนต้องเข้าแถว ต้องข้ามทางม้าลาย ฯลฯ
.
แต่ประเด็น คือ มันเรื่องเดียวกันกับ “ประชาธิปไตย” ไหม ? แล้ว “ประชาธิปไตย” คือ อะไร ?
.
ตอบแบบเข้าใจง่าย ๆ และเป็นเรื่องที่เข้าใจตรงกัน คือ การที่ประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจในการปกครองตนเอง มีอำนาจในการตัดสินใจอนาคตของตนเอง ไม่ใช่เรื่องของพระเจ้า หรือพระราชาองค์ใด ๆ ที่จะเข้ามามีอำนาจเหนือกว่าตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ แทนประชาชน เหมือนการปกครองในอดีต
.
“ประชาธิปไตย” จึงเป็นเรื่องของ “สิทธิ” ไม่ใช่ “หน้าที่” เป็นสิทธิในทางการเมืองของคนในสังคมว่าจะเลือกแนวนโยบายใด จะเลือกผู้แทนที่เสนอนโยบายด้านเศรษฐกิจหรือนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม ฯลฯ ซึ่งแนวคิดนี้ประกาศว่าทุก ๆ คน มีสิทธิดังกล่าวเท่าเทียมกันและใครหน้าไหนจะมาพรากสิทธิเหล่านี้ไปจากประชาชนไม่ได้ !
.
เมื่อมี “สิทธิ” แล้ว สิ่งที่ตามมาก็คือ “หน้าที่” ที่จะต้องเคารพต่อ “สิทธิ” อย่างเช่น เรามี “สิทธิ” ในทรัพย์สิน เราย่อมสามารถใช้สอย ขาย ทำลาย หรือจะเก็บไว้เฉย ๆ ไม่ต้องใช้ก็ได้ คนอื่น ๆ ที่ไม่ใช่เจ้าของก็ต้องมี “หน้าที่” ต้องไม่ไปรุกล้ำ ละเมิด แย่งชิง ทรัพย์สินที่ไม่ใช่ของตนเอง หรือเอาเป็นตัวอย่างเดียวกันกับในหนังสือ เรามีสิทธิที่จะขับรถบนถนน เด็ก ๆ ก็มีสิทธิที่จะข้ามถนน เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ จึงต้องมีการกำหนดกติการ่วมกัน คือ เด็ก ๆ มี “หน้าที่” ต้องข้ามถนนบนทางม้าลาย และผู้ใช้รถก็มี “หน้าที่” ต้องหยุดให้เด็ก ๆ เดินข้าม เป็นต้น
.
ขอย้ำอีกครั้งว่าการสั่งสอนให้เด็กรู้จักหน้าที่ของตนเอง รวมถึงหน้าที่พลเมือง เป็นเรื่องที่ดี เช่น หน้าที่ในการสังเกตการเลือกตั้ง หน้าที่ในการเป็นลูกขุนหรือพยานเมื่อศาลมีคำสั่งเรียกให้มามีส่วนร่วมในการพิจารณาของศาล เป็นต้น
.
แต่การเอาคอนเสปเหล่านี้มาแทนที่กับความหมายที่แท้จริงของประชาธิปไตย นอกจากจะเป็นการบิดเบือนความหมายของคำทำให้เด็ก ๆ เกิดความเข้าใจที่ผิดแล้ว หนังสือเหล่านี้ยังปลูกฝังค่านิยมแบบ ”อำนาจนิยม” ให้กับคนไทยมาตั้งแต่เด็ก แทนที่จะสอนเด็ก ๆ เรื่อง “สิทธิ” ก่อน การเริ่มต้นด้วย “หน้าที่” นั้น หมายความว่า แทนที่คุณจะเกิดมาเป็น “ประธานแห่งสิทธิ” มีสิทธิในเนื้อตัว ร่างกาย มาตั้งแต่กำเนิด กลับกลายเป็นว่า ทันทีที่คุณเกิดมาคุณก็มี ”หน้าที่” แล้ว.. ผู้ใหญ่สั่งให้ทำก็ต้องทำ ถ้าคุณรถน้ำต้นไม้ตามที่พ่อแม่บอก เท่ากับว่าคุณประชาธิปไตย ! #ชาวเอเธนส์ได้ยินเข้าคงร้องไห้แพร๊บบบบบบบ
.
ถ้าเราเริ่มต้นจาก “สิทธิ” ก่อน เด็ก ๆ ก็จะรู้ว่าทำอะไรได้บ้าง เราเป็นเจ้าของหุ่นยนต์ เราสามารถเล่นได้ ทำลายได้ แต่ตุ๊กตาหมีตัวนี้เป็นของเพื่อน เราก็มี “หน้าที่” ต้องเคารพ ไม่ไปแย่งของเพื่อนมาเล่น ถ้าอยากเล่นก็ต้องไปขอความยินยอมจากเจ้าของมาก่อน เรื่องแบบนี้ก็สามารถปลูกฝังสอนกันได้ตั้งแต่เด็ก ๆ พอเด็ก ๆ เค้ารู้ว่ามีสิทธิอะไร และอยู่ดี ๆ มีคุณครูมาจำกัดสิทธิ ออกคำสั่งต่าง ๆ มากำหนดหน้าที่ให้เด็ก ๆ ต้องทำ เด็ก ๆ ก็จะได้ตั้งคำถามได้ว่า “ทำไม” ต้องทำตามคำสั่ง
.
แต่ถ้าเราปลูกฝังลูก ๆ มาตั้งแต่เด็กว่า มี “หน้าที่” ต้องทำอย่างนี้ อย่างนั้น แล้วก็ไม่บอกด้วยว่าทำไม ลูก ๆ ของเราเองก็ไม่ต่างกับ “สุนัข” เชื่อง ๆ ตัวหนึ่ง ที่ถูกเลี้ยงเอาไว้ นายสั่งให้ทำอะไรก็ตาม โดยไม่สนใจตั้งคำถามเลยว่าที่นายสั่งนั้น มันถูกต้องหรือไม่ เพราะถูกสอนให้เคารพ เชื่อฟัง คำสั่งมาตั้งแต่เด็ก ๆ สมองมันก็ไม่พัฒนา ไม่รู้จักตั้งคำถาม โต้แย้งแสดงความคิดเห็นด้วยเหตุและผล

ติดตามอ่านได้ที่ https://www.facebook.com/100831741819062/posts/344479797454254/?sfnsn=scwspmo

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *